ราคาเพชร Heart & Arrow

ก่อนอื่นต้องขอแยกตอบคำถามนี้ตามชนิดของเพชร   เป็นเพชรระดับล่าง   คือ  เพชรอินเดีย   เพชรระดับกลาง คือ เพชรเบลเยียมคัท  และเพชรระดับสูง คือ เพชร Heart & Arrow – รัชเชี่ยนคัทนะคะ

ราคาเพชรชั้นสูง เช่น Heart & Arrow – รัชเชี่ยนคัท จะราคาขึ้นตลอดเวลา ไม่ผันผวนเหมือนเพชรในตระกูลต่ำ (เช่น เพชรอินเดีย) เนื่องจากบริษัท DeBeers ซึ่งเป็นผู้ผลิตเพชรHeart & Arrow รายใหญ่ที่สุดในโลก สามารถควบคุมตลาด (Monopoly) ไว้ได้แต่เพียงผู้เดียว DeBeers จึงไม่เคยปล่อยให้ราคาเพชร Heart & Arrow ตก โดยหากประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก วิธีที่ DeBeers จะใช้คือ การซื้อกลับเอง, หยุดผลิต หรือแม้กระทั่งปิดเหมืองเพชรในเครือบางส่วนไป เพื่อดึง Supply ให้น้อยลง แต่จะไม่ยอมให้ราคาเพชร Heart & Arrow ตก ดังนั้นการลงทุนในเพชร Heart & Arrow จึงไม่มีความเสี่ยง จะเห็นได้ว่าแม้ในขณะที่ราคาทองคำตกลงอย่างหนัก รวมทั้งโภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น น้ำมันราคาตกลงอย่างหนัก  แต่ราคาเพชร Heart & Arrow กลับสวนทางปรับราคาขึ้นอย่างสม่ำเสมอเหมือนที่เคยเป็น     นั้นเป็นเพราะกลไกการควบคุม Supply เพชร Heart & Arrow ของ DeBeers ทำได้อย่างสมบูรณ์

เพชรอินเดียจะมีราคาผันผวน อาจราคาตกได้มากหากมีผู้ผลิตเทขายออกมาพร้อมๆกัน เนื่องจากเป็นเพชรที่ผลิตได้ไม่ยาก ไม่ต้องใช้ความชำนาญ  (Know How) ในการผลิตมาก    ใครก็ทำได้ไม่ยาก ผู้ผลิตเพชรอินเดียในโลกมีจำนวนมากมาย โดยอินเดียเป็นรายใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ผู้ผลิตในประเทศต่างๆทั่วโลก เช่น จีน, รัชเชีย, แคนนาดา และ ไทย ก็สามารถผลิตเพชรอินเดียหรือเพชรเบลเยียมคัทได้    ไม่มีบริษัทใดในโลกควบคุมราคาเพชรในตระกูลต่ำได้  เนื่องจากมีปริมาณมากมาย (99 % ของเพชรในโลก) ราคาของเพชรในตระกูลต่ำ(เพชรอินเดียหรือแม้กระทั่งเพชรเบลเยียม) จึงผันผวน    และราคาตกได้ขึ้นกับปริมาณการซื้อขายในตลาด